“ซันชิชิป่อง่ เหยียบบันลือโลก” วีรัส ณ หนองคาย ย้อนรอยมันสมองมันสมองโคตรตะกร้อท้องสนามหลวงแตก!! ทัศนียภาพงานท่าทางทะยานบินทิฆัมพรเฉียดกรายโฉบเค้าหน้าตาข่ายขึ้นฟาดตวัดฟาดเด็กลูกตะกร้ออย่างรวดเร็ว หมายรวมใช้คืนพระบาทเฉือน เกือบ กระทืบประการคล่องแคล่วคล่องแคล่ว เฉียบขาด ไม่มีเงินคู่อาฆาตทุที่จะระวังดูแลรักษาสิ่งของมากเฆี่ยนเด็กหวายขนมจากลุ่มน้ำโขงชื่อ “โร่” วีรัส ที่ จังหวัดหนองคาย ดำรงฐานะแห่งโจษขานห้ามขนานใหญ่ เมื่อ 40 กว่าปีก่อน สถานที่ขนาดที่จะปราศจากโลกโชเแม่ชีมองดู แต่เจ้าของชื่อ “ซันชิชิโต่” เสียงยกย่องก็ระบือลือเจียรห่างไกลทุกเมทินีกรุงสยาม โดยเฉพาะคู่รักกีฬาต่างโหยมองเห็นตัวดำรงฐานะๆ สักทีว่าไอ้เหน้ามนุชตรงนี้หน้าครอบครองเช่นไร “ยุคนั้นควรจะคาดคะเนพรรษา 2523 ชื่อเสียงเรียงนามสิ่งของ วีรัส ในที่ จังหวัดหนองคาย ดังจังๆ เช่นตั้งแต่ก่อนกำหนดเคียงกลุ่มชนชาติแหลมทองพ้นทีเดียว เพราะเสียงยกย่องมาจากลูกเฆี่ยนแห่งได้ชื่อว่า “ซันชิโต่” นั่นล่ะ นพชัยชนะ ภูมิรู้ดวงใจชัย อดีตกาลผู้จัดการทีมตะกร้อธนาคารกรุงสุรกับเลขาธิการยุ่งเกี่ยวตะกร้อสถานที่ประเทศไทย ทวนทบอดีตกาลพอแหล่ทศปีก่อน “กระผมเองก็ไม่หิวจะหลงเชื่อเหมือนกัน แต่ยอมรับแหวกิตติศัพท์สรรพสิ่ง วีรัส ในที่ หนองคาย จักดำรงฐานะแห่งหนตอแยสรรพสิ่งคู่รักลูกตะกร้อจังจดขนาดนั้น ซึ่งคราวนั้นอีกทั้งพ้นไปแหล่งหล้าโซเชียลนะ เกล้าผมยังนึกได้ดีงามวันที่เกล้าผมนำพานกเขามาประชันสถานที่สนามหลวงที่พรรษา 2523 ที่งานเทศกาลกีฬาแหลมทอง แฟนกีฬาแห่งหนรู้ข่าวมาเฝ้ารอแลดูครบท้องสนามหลวง” “แตกต่างสอบถาม ซันชิชะโต่สิงสู่ใดๆๆ ขณะที่พาเขาลงจากรถตู้ โอ้โห! กว่าจะพาเนื้อตัวเวิกแฟนกีฬาเข้าได้มาเหมือนนำพาดาราซูเปอร์สตาร์หรือไม่ก็นำนักมวยเช่นฝ่าเท้าคนรักๆเข้าเค้าหน้าแท่นอย่างไรแบบนั้นเกิน ด้วยกันวันนั้นนกเขาก็เล่นได้มาเป็นหนึ่งดื่มด่ำแฟนกีฬาหัวนอนปลายตีนรอคอยมองดู” ความจำขนมจากอดีตกาลผู้จัดการตะกร้อกลุ่มชนชาติแหลมทอง นพความมีชัย ภูมิรู้ใจความมีชัย มากหลายตะกร้อเหน้าจากลุ่มน้ำแม่น้ำโขง “ป่อง่” วีรัส ในที่ หนองคาย ดำรงฐานะใครมาจากใด กับ “ซันชิชิโต่” นามนี้มีภูมิหลังยังไง ด้วยกันคู่รักลูกตะกร้อราวกับจำเป็นจะต้องมนต์พอได้มองดูท่าทีท่าทาง ลูกประหัตประหารแห่งเฉียบขาดซึ่งครอบครองกลวิธีของตะกร้อไทยแห่งตกค้างในที่ความทรงจำจับใจสิ่งของแฟนตะกร้อชาวไทยลงมาจนถึงวันนี้ แม้แต่คู่ปรับตัวฉกาจชนิด “โจรเหลือง” มาเลเซีย ก็ซูฮก นี่ถือเอาว่ากระบวนฆ่าสถานที่ปากเหยี่ยวปากกาสลายกำแพงหลักการรับได้ชนิดธำรงสมรรถนะ ที่ ชายฝั่งแม่น้ำแม่น้ำโขง เด็กผู้ชายโร่ วีรัส ที่ หนองคาย ถือกำเนิดประตูครั้นวันที่ 12 พ.ค.2496 ในที่ครอบครัวเกษตรกรด้วยกันรับจ้างธารณะ กับด้วยความยากจนข้นแค้นเป็นเหตุให้เด็กชายป่อง่ได้ร่ำเรียนศึกษาถึงเท่าชั้น ป.4 ที่ โรงเรียนนิวาสสถานหาดคำพูด ก็จำเป็นจะต้องจอดแทบแค่นั้น เพื่อออกมาเอาใจช่วยแห่งนิวาสสถานปฏิบัติการและรับจ้างทุกอย่าง รวมทั้งคนงานก่อสร้างกับ ปั่นจักรยานสามล้อ การทำงานสุจริตได้เงินก่อหมด แม้ชีวิตจะลำบากเสียแต่ว่าเด็กชายโร่ก็หวังเรียนตอนแห่งหนออกมารับจ้างธารณะก็เรียนกศน.เจียรด้วย นอกจากนี้อีกต่างหากพอใจเล่นกีฬาอีกด้วย โดยช่วงแห่งหนเรียนนั้นชื่นชอบโจ้บอลเฉกเช่นลูกๆระแวกกลับตรงนั้น ก่อนที่จะผลัดกันลงมาเล่นกีฬา “ลูกตะกร้อ” พอช่วงอายุ 15 พรรษา ทั้งนี้โจ้ก็เพื่อความยินดีสนานภายหลังได้ผลจากธุระ เหตุว่จะจำเป็นต้องแนบกลุ่มชาติไม่เคยทบทวนดู ทว่าโจ้จากไปเล่นมาด้วยกันเท่าเทียมจะเป็นมงคลด้วยกันพรสวรรค์ในที่ตัวไม่รีบร้อน ส่งประกายและได้โอกาสรวมกลุ่มเดินสายแข่งขันติดสอยห้อยตามงานวัดงานเทศกาลกระยาเลย มากขึ้น “เวลาตรงนั้นตะกร้อมุขอีสานเปล่าอ่อยจักโจ้ห้ามเต็มที่มากหลาย โดยมากจักเล่นกันที่กรุงเทพฯ ซึ่งแต่เดิมกระผมก็เท่าเล่นมอนๆ ไม่ตรึกตรองแหวจะจำเป็นจะต้องชิดคณะชาติ พอจำเนียรทิวากาลเข้ารู้สึกพอใจแล้วก็ริเริ่มเล่นแน่แท้ ซึ่งคราวนั้นกระผมโจ้ทั่วตำแหน่งเสิร์ฟ และหวด” ประวัติการณ์ตะกร้อเมืองหนองคายบอกความหลัง ช้าทิวาฝีไม้ลายมือก็บริบูรณ์สาหัสเสียงยกย่องแผ่กว้างขจายเป็นที่รู้จักในที่แวดวงโดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าทางเพชฌฆาตเค้าหน้าข่ายแห่งเฉียบขาดโหดร้ายเปล่าเหมือนใคร กระเป๋าแห้งเป็นหลักแหล่งของนาม “ซันชิชะป่อง่” จอมเหยียบบันลือโลก นาม “ซันชิชะป่อง่” มาจากงานขึ้นไปหวดของฉันจะไม่เสมอเหมือนใครรวมความว่าขึ้นณจังหวะแห่งตัวชงก่อตั้งลูกดีดจากไปแล้วแกว่งบาทเฆี่ยนเด็กตะกร้อทึ้งหวนกลับอย่างรวดเร็ว ด้วยกันพอดิบพอดีช่วงนั้นประกอบด้วยหนังเช่นทางโทรทัศน์ชื่อ ซันชิโร่ ยอดยูโด ด้วยกันจริตขึ้นไปเฆี่ยนของฉันทรงไว้จากไปคล้ายจริตกระชากดึงดูดสรรพสิ่งยูโด คนก็พ้นตั้งฉายาให้ดุ ซันชิป่อง่ ตั้งแต่ตอนนั้น” อีกด้วยงานขึ้นฟาดประหัตประหารคู่ปรับสถานที่แปลกใหม่ไม่มีใครเหมือน ทดกับดักละครโทรทัศน์เหตุ ซันชิโร ยอดยูโด ก็กำลังวังชาเช่นเปรี้ยงมาตุจฉาล้มเลิก้วย เหตุนี้เองชื่อเสียงเรียงนาม “วีรัส ณ จังหวัดหนองคาย” กับชื่อ “ซันชิชิป่อง่” แล้วก็เหมือนกับระเบิดอย่างรวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้นกระบวนขึ้นไปฟาด “ซันชิโร่” ต่อจากนั้น ไอ้สาวมากหลายหวดลูกหวายเขตที่ลุ่มโขง ก็อีกต่างหากประกอบด้วยกลวิธีอีกแน่นิ่งแห่งวาดลวดลายให้คู่รักๆ ลูกตะกร้อต้องอัศจรรย์ใจณความสามารถทั่วเด็กโจนปาดหน้าเน็ต, เสียบพระขนอง,กระทืบเฉคลุกเคล้ายย ด้วยกัน แจะหยอด จนดำรงฐานะหัวนอนปลายตีนอีกหนึ่งเหตุการณ์ โน่นถือเอาว่า “ลูกเหยียบบันลือโลก” เป็นความหลากหลายกับหวือหวาแห่งแฟนๆตะกร้อโหยเห็น “มันเป็นจังหวะฉวยโอกาสโจ้แจ้นแห่งได้เสียดีงามดำรงฐานะท่ารุกแห่งหนดิฉันเห็นคู่อาฆาตที่สนามหญ้า กับสามารถเลือกเฟ้นตัดสินใจได้ว่าจักเสียบเด็กจากไปตรงจุดใด จักส้อมบีบล็อกอย่างไรคุ้ยคลอดพามออกขวาก็ได้ ซึ่งการโจ้เร็วจะทำให้คู่อาฆาตคิดอ่านจบไม่ทัน ตั้งหลักไม่เคียง” ต้นตำรับชื่อซันชิชะโต่ เผยความลับท่าทีมัจจุราช จากความเก่งกาจแห่งโดดเด่นนั่นเองทำให้คว้าเป็นผู้แทนทีมลูกตะกร้อสิ่งของธานีจังหวัดหนองคาย ด้วยกันภายหลังได้ดั้นด้นจากไปต่อสู้กีฬาเขตแห่งชาติ ครั้งแห่งหน 13 แห่งหนธานีจังหวัดลำปาง เป็นเจ้าภาพณพรรษา 2522 ซึ่งณเวทีแห่งหนนี้ “ซันชิโต่” ได้แสดงความสามารถท่าทางแจกคนรักกีฬาบุรีรถม้าได้มาประจักษ์กับจับใจ “นพความมีชัย ภูมิรู้ดวงใจชัยชนะ” ผู้บัญชากลุ่มลูกตะกร้อแบงค์เมืองหลวงเทวดาและคณะกรรมการยุ่งเกี่ยวกีฬาไทยตอนนั้น “หัวอกจำเดิมแห่งเห็น วีรัส ณ จังหวัดหนองคาย เล่นที่กีฬาดินแดนแห่งหนบุรีลำปาง รู้แหวไอ้คนตรงนี้มันโจ้คานลกๆ ตกว่าวาดตีนขวาคลอดจรดูดกลับมาแกว่งเร็วๆ คือจะไม่เหมือนการลอยตัวขึ้นหวดทั่วไป ยิ่งไปกว่านี้อีกทั้งมีท้องเหยียบ ปาด หน้าตาเน็ต ก็เลยยั่วด้วยกันชักชวนลงมาเล่นมอบกับพวกธนาคารกรุงเทพมหานคร” กิตติศัพท์สิ่งของ “ซันชิชะป่อง่” เหมือนกับฉุดกระชากไม่อยู่หลังจากที่พาหะต่างๆ นำมาโฆษณาชวนเชื่อกล่าวขวัญท่าสรรพสิ่งดาวรุ่งโชคชะตาใหม่แห่งแวดวงลูกตะกร้อประเทศไทยขนมจากบริเวณที่ลุ่มแม่น้ำโขง กระทั่งคว้าแสดงตัวแห่งท้องสนามหลวง “วีรัส ใน จังหวัดหนองคาย” เปรียบเทียบดั่งผู้แสดงซูเปอร์สตาร์พ้นเทียว จวบจนณพรรษา 2526 ชื่อเสียงเรียงนามสิ่งของ “วีรัส ใน จังหวัดหนองคาย” ก็ติดโผรวมทีมตะกร้อทีมชาติประเทศไทยตะเวนเจียรทำสงครามกีฬากีฬาซีเกมส์ หนที่ 12 แห่งหนแดนสิงคโปร์ ถือเอาเป็นครั้งแรกที่สังเวียนระดับอาเซียน เสียแต่ว่าน่าเสียดายจรจดแชมป์ เมื่อคว้าเหรียญเงินชนิดีมเหล่า ด้วยกันเหรียญทองแดง ในประเภททีมเดียวดาย ด้วยกันกลับบ้านพร้อมด้วยท่าทางเจ็บกล้ามขาดกระจาย แต่ณอีก 2 ชันษาต่อมาก็สมรรถล้างแค้น “เสือเหลือง” มาเลเซีย คว้าสำเร็จ ที่การชิงดีชิงเด่นกีฬาซีเกมส์ ทีแห่ง 13 แห่งหนกรุงเทพมหานคร ณพรรษา 2528 ดำรงฐานะซีเกมส์แห่ง “ซันชิโร่” และพวกลูกตะกร้อแหลมทองดื่มด่ำอยู่ในความจำชั่วฟ้าดินสลาย “เป็นซีเกมส์แห่งหนซาบซึ้งจัง ตอนนั้นท่านพลตรี จารึก อารีราชกิจ เข้ามาเป็นผู้นำยุ่งเกี่ยวลูกตะกร้อฯนวชาตๆ มาเป็นเลิศทีมตะกร้อทีมขม่อมต่อแต้ม กกท. กับถามแหว ทำเช่นไรจรดจะปราบมาเลเซียคว้า กระผมพ้นบอกจรตวาด มีสตางค์บำเหน็จอัดจาระบีขอรับจากนั้นหมู่เราจะเอาชนะจ่ายได้” วงศ์ลูกตะกร้อ ซันชิโต่ พูดถึงฆาตลงมาสิ่งของการอัดพ่นหนแรก “ดำรงอยู่แหวแกพลตรีจารึก สัญญาจักตกรางวัลอัดฉีดเหรียญทองละ 10,000 เท้า ซึ่งเวลานั้นไม่เคยมีไม่ว่าจักกีฬาใด เสียแต่ว่าลูกตะกร้อครอบครองกีฬาจำเดิม มีอยู่ตวาดวันต่อจากนั้นนักกีฬาตัวเป็นเกลียวฝึกห้ามมากสะดุ้งตื่นตั้งแต่ทุบ 5 ฝึกวันละ 3 ระยะเวลา วิ่งกักคุมเป็นดุรงค์เพราะแตกต่างก็ประสงค์อัดจาระบีและตอนนั้นเงินตราบำเหน็จพ้นไปแบ่งอีกด้วยใครชนะตกลงจร” กับกีฬาซีเกมส์แห่งหนกรุงเทพฯ ตะกร้อไทยก่อสร้างชื่อเสียงเรียงนามบังเกิดผลคว้าแชมป์ทีมเหล่า กับ คณะเดี่ยว เป็นพิเศษประเภทพวกเหล่าไฮไลต์สรรพสิ่งการแข่งขันได้ผลปราบมาเลเซียได้มาครั้งแรกในรอบ 18 ชันษา นับต้องคดีเกิดผลที่อุรุ ระหว่างที่นาม” ซันชิป่อง่” ก็เช่นเดียวกับแพร่สนั่นอีกด้วย กับในกีฬากีฬาซีเกมส์ ทีที่ 14 ที่กรุงจากาดวงตาร์ ประเทศอินโดนีเซีย ตะกร้อขนมจากแถบที่ลุ่มโขงอีกทั้งอย่างยิ่งสำคัญและประสบผลสำเร็จคว้า 2 เหรียญทองอีกครั้ง ก่อนที่อีกคู่ปีภายหลังณซีเกมส์ ทีที่ 15 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ขนาดที่ตะกร้อแหลมทองจะครองแชมป์คณะเหล่ามาได้มาอีกด้วยการพลิกเมืองนรกหั่น “โจรเหลือง” ติดอยู่แดน เสียแต่ว่า “ซันชิโต่” ต้องเจ็บทนทุกข์ขนมจากจังหวะขึ้นไปเกือบกระทบผู้เล่นบรูไนแบบหล่อตกลงลงมา “คะขวาหัก” ขนาดที่จะเข้ารับสารภาพการผ่าเจี๋ยนและสามารถกลับมาเล่นคว้า เสียแต่ว่าก็ยังเป็นที่แคลงใจแคลงแหวอาจจะกะร่องกะแร่ง 100 ร้อยละเช่นแต่เดิมทำให้การแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ หนที่ สิบเอ็ด แห่งกรุงเมืองปักกิ่ง จีน ณพรรษา 2533 ปราศจาก “วีรัส ณ หนองคาย” หลวมผวา และครั้งนั้นเองเป็นเหตุให้หลายโบยเด็กหวายขนมจากจังหวัดหนองคายข้อมูลอำลาคณะชาติแหลมทอง โดยชีวิตหลังจากนั้นยังคงคลุกคลีอยู่ในวงการลูกตะกร้อ อีกด้วยการผันตนเองไปปฏิบัติหน้าที่เป็นคนฝึกตะกร้อแจกกับดักคณะต่างชาติทั้ง ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ ด้วยกัน ประเทศสิงคโปร์ จนกระทั่งชันษา 2550 “บิ๊กจา” พล.ต.สลัก อาเรียวราชการัณย์ กษัตริย์ลูกตะกร้อแหลมทองได้ดึงดูดเนื้อตัวลงมาประจำการเป็นคนฝึกลูกตะกร้ออิสตรีคณะชนชาติประเทศไทย และตำนานตะกร้อขนมจากเมืองจังหวัดหนองคายก็พิสูจน์ฝีมือกับมันสมองพาคณะตะกร้อเหน้าได้ความสำเร็จยิ่งสม่ำเสมออุรุดำรงฐานะเบอร์ 1 ของพื้นโลกมาจนกระทั่งวันนี้มันสมอง.มันสมอง ชีวประวัติ ชื่อ วีรัส ณ จังหวัดหนองคาย ก่อเกิดวันที่ 12 พ.ค.2496 ,ชื่อ ป่อง่ รกราก ครอบครองชาวอ.นคร เมืองหนองคาย อดีตนักกีฬาลูกตะกร้อทีมชาติประเทศไทย ฐานันดร ตัวก่อ ปัจจุบัน ทำงานผู้ฝึกสอนลูกตะกร้ออิสตรีพวกชนชาติไทย ผลงานปีกนักกีฬา 1. ชนะ การแข่งขัน “คิงส์คัพ” ทีแห่งหน 1 ประจำปี 2527 ใน ไทย 2. ชนะ การแข่งขัน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 2 ประจำปี 2528 ที่ ประเทศไทย 3. ชนะเลิศ การแข่งขัน “คิงส์คัพ” หนแห่งหน 3 รายปี 2529 ที่ ไทย 4. ชนะ การชิงดีชิงเด่น “คิงส์คัพ” หนที่ 4 ประจำปี 2530 ใน ไทย 5. ชนะเลิศ การชิงดีชิงเด่น “คิงส์คัพ” ทีที่ 5 ประจำปี 2531 ณ ประเทศไทย 6. เหรียญเงินพวกกลุ่ม, ทองแดงทีมว้าเหว่ กีฬากีฬาซีเกมส์ ทีแห่งหน 12 ประจำปี 2526 ณ ด้าวสิงคโปร์ 7. เหรียญทองคณะเหล่ากับคณะว้าเหว่ กีฬา ซีเกมส์ ครั้งที่ 13 รายปี 2528 ณ แหลมทอง 8. เหรียญทองพวกชุดกับดักคณะว้าเหว่ ซีเกมส์ ครั้งแห่ง 14 ประจำปี 2530 ใน แดนอินโดนีเซีย 9. เหรียญทองพวกกลุ่ม, เหรียญเงินคณะเดี่ยว กีฬาซีเกมส์ ทีที่ 15 รายปี 2532 ที่ ประเทศมาเลเซีย